นครปฐม ยูไนเต็ด : เสือป่าที่รอวันคำรามบนลีกสูงสุด

เกือบ 12 ปี แล้ว ที่ฟุตบอลเมืองนครปฐม ไม่ได้มีโอกาสได้ไปโลดแล่นบนเวทีไทยลีก แต่การรอคอยของพวกเขาจะสิ้นสุดในวันที่ 24 เมษายน ซึ่งเป็นเกมเพลย์ออฟ นัดชิงชนะเลิศ เกมที่ 2 ที่เดิมพันด้วย ตั๋วใบสุดท้ายที่จะเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก หรือไม่ นี่คงเป็นโจทย์ที่ “โค้ชธง” ธงชัย สุขโกกี และ เหล่าพลพรรค “เสือป่าราชา” นครปฐม ยูไนเต็ด จะต้องทำการบ้านอย่างจงหนักหากอยากจะสมหวัง

 

 

แต่กระนั้น 12 ปี หลังจากตกชั้นจากฟุตบอลไทยลีก 2552 มีเรื่องราวมากมายที่ชวนพูดถึง นี่ยังไม่รวมถึงต้นกำเนิดของพวกเขา บนสารระบบฟุตบอลอาชีพของไทย ก่อนจะมาเป็น “นครปฐม ยูไนเต็ด” ในวันนี้

 

จุดเริ่มต้นของ “นักสู้เมืองเจดีย์ใหญ่” คงต้องย้อนกลับไปในปี 2542 ที่มีการแข่งขันฟุตบอล “โปรวินเชียล ลีก” และซึ่งพวกเขา ก็เป็น 1 ใน 14 ทีมนำร่อง ที่ได้รับเชิญเข้าร่วม

 

 

โดยในเวลานั้น ทีมใช้โค้ชคนคู่คือ สันชัย วงน้อย และ สุพจน์ สูญพลอย โดยในยุคแรก ได้ผู้เล่นที่พอจะคุ้นชื่อ ก็มีอย่าง อาทิตย์ สุขสบาย, สุรพล อิ่มสำราญ, กิจ มีศรีสุข เป็นต้น โดยเฉพาะรายหลังที่ผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอนของทีมในภายหลัง ด้านผลงานปีแรกของพวกเขาจบด้วยอันดับที่ 6 ผลงานช่วงแรก ๆ ของพวกเขาก็จบอยู่กลางตารางชนิดความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ

 

 

[ผลงานของนครปฐมในโปรลีก ตั้งแต่ 2542-43 จนถึง 2546]

โปรลีก 2542/43 - อันดับ 6

โปรลีก 2543/44 - อันดับ 7

โปรลีก 2545 - จบรองแชมป์โซนล่าง แต่ได้อันดับ 5 ในรอบระดับประเทศ

โปรลีก 2546 - อันดับ 7

 

 

จนกระทั่ง โปรลีก 2547 ที่พวกเขาได้ผู้เล่นไทยฝีเท้าดี ๆ อย่าง พานุวัฒ ยิ้มสง่า, สุทธินันท์ พุกหอม บวกกะเด็กปั้นที่ขึ้นหม้ออย่าง ประหยัด บุญญา, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ และผู้เล่นต่างชาติที่เข้ามาสร้างสีสันในฟุตบอลโปรลีกยุคนั้น ซึ่งเป็นทีมแรก ๆ ที่ได้มา อย่าง อับดุลลา มุสตาฟา, โคเน่ คาสซิม โดยเฉพาะรายหลัง ที่เคยก้าวไปถึงดาวซัลโวร่วมในปีนั้น ด้วยจำนวน 11 ประตู ในปีนั้น ซึ่งส่งผลถึงผลงานของทีมที่กระเตื้องขึ้นมาลุ้นแชมป์กะเขาด้วย จนมาประสบความสำเร็จ ด้วยการจบอันดับสาม ใน โปรลีก 2549 ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นไปโลดแล่นบนลีกสูงสุดของไทย แทนที่ทีมการท่าเรือฯ 2 (ที่เป็นทีมรับเชิญของสมาคมฯ) ซึ่งเบื้องหลังคนสำคัญ ที่แฟนนครปฐมจำได้ดี ก็ต้องเป็น “น้าถิต” สถิตย์ ทวีนุช ผู้จัดการทีมคนสำคัญ

 

 

[ผลงานของนครปฐมในโปรลีก ตั้งแต่ 2547 จนถึง 2548]

 

โปรลีก 2547 - อันดับ 3

โปรลีก 2548 - อันดับ 3

 

 

ซึ่งในไทยลีกปีแรกของพวกเขา (2550) ก็สามารถอยู่รอดปลอดภัยในลีกได้สำเร็จ ด้วยการจบอันดับที่ 11 โดยมี พิเชษฐ อินทร์บาง เป็นดาวซัลโวของทีมที่ 8 ประตู ส่วนปีต่อมา (2551) ก็ยังประคองตัวมาจบอันดับเลขตัวเดียว อย่างอันดับ 9

 

ปีต่อมา พวกเขาจะกล้า ๆ รับนักเตะฝรั่งหัวทองมาสร้างความตื่นตาตื่นใจในไทยลีกอย่าง ไมเคิล เบิร์น ซึ่งก็ทำผลงานได้ดีอีกต่างหาก เพราะเพียงปีแรกที่เล่นให้นครปฐม ก็ยิงไป 4 ประตูในลีก แม้ว่าดูน้อยแต่กับบทบาทจอมจ่าย และเกมกลางสนามนี่เอง ก็ไปเตะตาชลบุรี เอฟซี จนต้องคว้าตัวในที่สุด แต่ก็ทำให้ผลงานตกลงจนตกชั้นในเลกสองด้วย “บ๊วย” (อันดับที่ 16)

 

 

ส่วนผลงานในดิวิชั่น 1 ปีต่อมา ก็ทำท่าจะไปได้สวย โดยมีผู้เล่นยัง ภูวดล สุวรรณชาติ, ธนากร ขำโขมะ, เฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ แถมรายแรก ก็ยังเป็นดาวซัลโวทีมถึง 13 ประตู แต่ก็เฉียดจะเลื่อนชั้น เคราะห์ดีที่พวกเขายังได้รับโอกาสจากการเพิ่มทีมของไทยลีก แต่ทว่า...

 

 

จากเกมที่พวกเขาพบกับศรีสะเกษ เมืองไทย ที่มีเรื่องทะเลาะวิวาท ทำให้สมาคมฯ ในเวลานั้นสั่งแบนถึงสองปี ก่อนจะกลับมาในโฉมใหม่ ก็คือ “นครปฐม ยูไนเต็ด”

พวกเขาวนเวียนในดิวิชั่น 1 อยู่หลายปี มีลุ้นเลื่อนชั้นบ้างในปี 2558 ที่ต้องมาแข่งนัดตกค้างกะสุโขทัย แต่พ่ายแพ้ไป หลายปีต่อมาต้องมาตกชั้นแบบ “ช็อควงการ” ในปี 2560 จากการส่งคลับไลเซ่นซิ่งไม่ทัน ต้องมาเริ่มกันใหม่ในปี 2561 ด้วยตัวผู้เล่นเดิมที่มาแค่ โชคชัย ชูชัย และ เลสลี่ อับโบรห์

 

แต่ด้วยการให้โอกาสเด็กดาวรุ่ง และ ระบบการเล่นของทีมที่ โค้ชธง วางแผนอย่างดีทำให้พวกเขาเลื่อนชั้นมาแบบติด ๆ กัน สองปี พร้อม ๆ กับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด คู่แข่งด่านสุดท้ายของพวกเขาในการเลื่อนชั้น

 

ซึ่งการรอคอยครั้งนี้ จะสิ้นสุดหรือไม่

 

คำตอบอยู่ที่วันที่ 24 เมษายน 2564.....

 

#เจ๊ป๋อง