การท่าเรือ เอเอสเอ็ม กลายเป็นทีมดับเบิ้ลแชมป์ ฤดูกาล 2018 เจ๊า พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี 5-5 ในนัดชิง ก่อนแม่นโทษกว่า
การแข่งขัน ฟุตซอล เอฟเอคัพ 2018 รอบชิงชนะเลิศ ที่ไอส์แลนด์ฮอลล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา วันเสาร์ที่ 29 ธ.ค. เป็นการโคจรมาพบกันของ 2 ทีมยักษ์ใหญ่เมืองไทย อย่าง พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี อดีตแชมป์ 4 สมัย และเป็นรองแชมป์ ฟุตซอลไทยลีกฤดูกาลนี้ พบกับ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม แชมป์ฟุตซอล ไทยลีก ฤดูกาลล่าสุด ที่หวังคว้าแชมป์รายการนี้ครั้งแรกให้ได้ ท่ามกลางกองเชียร์ของทั้งสองทีม ที่เข้ามาชมกัน จนล้นสนาม
เริ่มครึ่งแรก ทั้งสองทีม เปิดเกมบุกเข้าใส่กันทันที และเพียงแค่ น.2 กองเชียร์ “สิงห์คลองเตย” ก็ได้เฮก่อน จากการยิงของ วัชระ ลัยศรี ให้ การท่าเรือฯ ออกนำ บลูเวฟ ก่อน 1-0
แต่ในน.3 สาวก “ฉลามพลังเพลิง” ได้เฮบ้าง เมื่อมาได้ประตูตีเสมอทันควัน จากการยิงของ กฤษดา วงษ์แก้ว ให้ บลูเวฟ ตีเสมอเป็น 1-1
จากนั้น น.9 การท่าเรือฯ มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ ธนัญชัย ชมบุญ ผ่านให้ พรมงคล ศรีทรัพย์แสง ยิงเข้าไป
น.17 การท่าเรือฯ มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะหลุดเข้าไปยิงของ ชัยวัฒน์ แจ่มกระจ่าง
น.19 พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี มาได้ประตูไล่ขึ้นมาเป็น 2-3 จากจังหวะพลิกยิงของ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง บอลแฉลบ พรมงคล ศรีทรัพย์แสง ผู้เล่น การท่าเรือฯ เข้าประตูตัวเองไป ก่อนจบครึ่งแรก การท่าเรือ เอเอสเอ็ม ออกนำ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี อย่างสุดมันส์ 3-2
กลับมาเล่นกันต่อ ในครึ่งหลัง เพียงแค่ น.22 พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี มาได้ประตูตีเสมอเป็น 3-3 จากการยิงของ กฤษดา วงษ์แก้ว
จานั้น น.35 การท่าเรือฯ มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 4-3 จากจังหวะหลุดเดี่ยวของ อนุกูล มินิ ก่อนจะกระดกบอลข้ามหัว คฑาวุธ หาญคำภา ผู้รักษาประตู บลูเวฟ เข้าไปอย่างสวยงาม
แต่ในนาทีเดียวกัน พีทีที บลูเวฟ มาได้ประตูตีเสมอ 4-4 ทันควัน จากการยิงของ กฤษดา วงษ์แก้ว และเป็นแฮตทริก ของ เจ้าตัว ในเกมนี้อีกด้วย
น.37 พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี มาได้ประตูพลิกขึ้นนำ เป็นครั้งแรกของเกม จากการเล่น พาวเวอร์เพลย์ และเป็น ซาป้า ที่ซัดไกลเข้าไป ให้ทีมขึ้นนำเป็น 5-4
น.38 การท่าเรือฯ มาได้ประตูตีเสมอเป็น 5-5 จากการเล่น พาวเวอร์เพลย์ ก่อนเป็น ธนากูล วิเชียรกุล ที่ยิงในจังหวะสุดท้ายเข้าไป
ก่อนที่ช่วงเวลาที่เหลือ จะไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี เสมอ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม ไปอย่างสุดมันส์ 5-5 ต้องตัดสินหาผู้ชนะ ด้วยการดวลจุดโทษฝั่งละ 3 คน
โดยเป็นฝั่ง บลูเวฟ ที่ยิงก่อน คนแรก จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ยิงไปชนเสา อย่างน่าเสียดาย ขณะที่ คนแรก ของ การท่าเรือฯ เป็น อนุกูล มินิ ก็ยิงไปติดเซฟ ของ คฑาวุธ หาญคำภา ทำให้ สกอร์ยังเท่ากันอยู่ที่ 5-5
คนที่ 2 ของ บลูเวฟ เป็น ซาป้า ก่อนจะยิงเข้าไป คนที่ 2 ของ การท่าเรือฯ คือ ชัยวัฒน์ แจ่มกระจ่าง ก่อนจะยิงเข้าไปเช่นกัน สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 6-6 คนที่ 3 ของ บลูเวฟ คือ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ก่อนที่จะยิงไปชนเสา อย่างน่าเสียดาย และคนที่ 3 ของ การท่าเรือฯ คือ ธนัญชัย ชมบุญ ก่อนที่จะยิงเข้าไป ให้ การท่าเรือฯ ชนะในการดวลจุดโทษ 3-2 สกอร์รวมจบที่ 8-7 คว้าแชมป์สมัยแรก ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่
รายชื่อผู้เล่น 5 คนแรก ทั้ง 2 ทีม
พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี : อรุษ เส็นบัตร (GK), ปาณัสม์ กิตติภานุวงศ์, รูดิมาร์ เวนันซิโอ้ “ซาปา”, กฤษดา วงษ์แก้ว (C), อันเดร์ ติอาโก้ กรัล “เกโก้”
การท่าเรือ เอเอสเอ็ม : นัทธพงษ์ หยีมะเหรบ (GK), วัชระ ลัยศรี, ชัยวัฒน์ แจ่มกระจ่าง, ธนพล มณีเพชร, อนุกูล มินิ
