ทีมชาติไทยลุ้นหนักศึกเอเชี่ยนคัพ เปิดหัวรอบแบ่งกลุ่มเจอทีเด็ดอินเดีย 

ศึกฟุตบอล เอเอฟซี เอเชี่ยนคัพ 2019 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทีมชาติไทย ลงประเดิมสนามพบ ทีมชาติอินเดีย แข่งขัน 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

 

เกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช มาในระบบ 4-2-3-1 วาง ธีรศิลป์ แดงดา กัปตันทีม เป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี ชนาธิป สรงกระสินธ์, อดิศักดิ์ ไกรษร และ ศุภชัย ใจเด็ด เป็น 3 มิดฟิลด์สนับสนุน ส่วนกลางรับมี สรรวัชญ์ เดชมิตร และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ด้านแนวรับนำโดย ทริสตอง โด, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์, ธีราทร บุญมาทัน และมี ฉัตรชัย บุตรพรม เฝ้าเสา

 

เริ่มเกมมาทั้ง 2 ทีมสู้กันได้อย่างสูสี และนาทีที่ 11 เป็นทีมชาติไทย ที่มาได้ลุ้นก่อนจากจังหวะต่อเนื่องที่อดิศักดิ์ ไกรษร ไหลให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กดด้วยขวาจากระยะเกือบ 30 หลา บอลพุ่งหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว

 

นาที 21 ไทยเกือบมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากฟรีคิกที่ทริสตอง โด เปิดให้ อดิศักดิ์ ไกรษร วิ่งมายิง แต่ยังติดเซฟของนายทวารอินเดีย ก่อนโดนสกัดออกหลังไป

 

แต่นาที 26 กลายเป็นอินเดียที่มาได้จุดโทษจากจังหวะโต้กลับ ฉัตรชัย บุตรพรม เซฟลูกยิงได้แต่โชคร้ายไปโดนแขนของ ธีราทร บุญมาทัน และเป็น สุนิล เชตรี ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ทีมจากแดนภารตะนำก่อน 1-0

 

นาที 31 ไทยน่าได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ ศุภชัย ใจเด็ด พาบอลตะลุยขึ้นมาก่อนไหลให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กดด้วยขวาโล่งๆ จาก 25 หลา ข้ามคานออกไป

 

นาที 33 ไทยก็มาตีเสมอหลัง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ถูกทำฟาล์ว และเป็น ธีราทร บุญมาทัน ที่เปิดฟรีคิกให้ ธีรศิลป์ แดงดา โฉบไปโหม่งเข้าไปให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

 

นาที 42 อินเดีย มาได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะบอลยาว ที่มาเข้าทาง สุนิล เชตรี ที่ได้วอลเลย์ด้วยขวาแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

 

นาที 44 ไทยมาได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะต่อบอลกันสวยงาม ที่ ธีราทร บุญมาทัน ให้ ธีรศิลป์ แดงดา แปะต่อให้ศุภชัย ใจเด็ด ยิงข้ามคานออกไป จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 1-1

 

 

เริ่มครึ่งหลังมาไม่ถึงนาที อินเดียมาได้ประตูขึ้นนำแบบช็อกแฟนบอลไทย จากจังหวะสวนกลับ และเป็น สุนิล เชตรี คนเดิม ที่วิ่งมายิงด้วยขวาเข้าประตูไปให้ อินเดีย ขึ้นนำไทย อีกครั้งเป็น 2-1 ชนิดที่ ฉัตรชัย บุตรพรม ได้แต่มอง

 

นาที 54 อินเดียมาได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกเตะมุม และเป็น สุนิล เชตรี้ ที่สอดเข้ามาโขกแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

 

นาที 58 ไทยเปลี่ยนตัวคนแรก ด้วยการส่ง กรกช วิริยอุดมศิริ ลงไปเล่นแทน สรรวัชญ์ เดชมิตร พร้อมหุบ ธีราทร บุญมาทัน ไปเล่นตรงกลาง

 

นาที 68 อินเดีย มาได้ประตูเพิ่มอีกจากจังหวะโต้กลับ และเป็น อนิรุธ ทาปา ที่ได้ชิพหนี ฉัตรชัย บุตรพรม และ พรรษา เหมวิบูลย์ เข้าไปให้ อินเดีย หนีไปเป็น 3-1

 

นาที 73 ไทยเปลี่ยนตัวคนที่ 2 ด้วยการส่ง สิโรจน์ ฉัตรทอง ลงมาเล่นในแผงกลางแทน ชนาธิป สรงกระสินธ์

 

นาที 75 ไทยน่ามาได้ประตูตีตื้นจากจังหวะที่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ จ่ายให้ ธีรศิลป์ แดงดา หลอกแนวรับอินเดียอย่างใจเย็น ก่อนยิงด้วยขวาแต่แฉลบออกหลังไป

 

นาที 79 ไทยเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายด้วยการส่ง สุมัญญา ปุริสาย ลงไปเล่นแทน อดิศักดิ์ ไกรษร

 

นาที 80 อินเดียมาได้ประตูอีกครั้งจากจังหวะที่แนวรับไทยเคลียร์บอลไม่ขาดมาเข้าทาง เจเจ ลัลเปคลัว จิ้มด้วยขวาเข้าประตูไปให้ สกอร์ห่างเป็น 4-1

 

นาที 87 ไทยมาได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ได้ลองยิงแต่ก็ยังไปตรงตัวของ นายทวารทีมชาติอินเดีย รับได้สบาย

 

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม ทีมชาติไทย พ่ายต่อ อินเดีย ไป 1-4 ทำให้ยังไม่มีแต้มจากการแข่งขันนัดแรก ส่วนอินเดีย ขึ้นไปเป็นจ่าฝูง 

 

โปรแกรมนัดถัดไป ทีมชาติไทย จะลงสนามพบ ทีมชาติบาห์เรน ที่สามารถแบ่งแต้มเสมอทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาได้ 1-1 ในวันที่ 10 มกราคม 2562 ที่สนามอัล มัคตูม สเตเดี้ยม เวลา 18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

 

รายชื่อ 11 ตัวจริง

ทีมชาติไทย : ฉัตรชัย บุตรพรม - ทริสตอง โด, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์, ธีราทร บุญมาทัน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สรรวัชญ์ เดชมิตร (กรกช วิริยอุดมศิริ 58), อดิศักดิ์ ไกรษร (สุมัญญา ปุริสาย 79), ชนาธิป สรงกระสินธ์ (สิโรจน์ ฉัตรทอง 73), ศุภชัย ใจเด็ด - ธีรศิลป์ แดงดา

 

ทีมชาติอินเดีย : กูร์ปีต ซิงห์ สันธุ, สุภาซิช โภส, ซานเดช จินกัน, อนิรุธ ทาปา (โรว์ลิน บอร์เจส 78), สุนิล เชตรี, อชีค คุรุนิยาน (เจเจ ลัลเปคลัว 78), โปรนาย ฮัลเดอร์ (จักกิจันทร์ ซิงห์ 86), อุดันทา ซิงห์, ฮาลิจารัน นาร์ซารี, ปริตาม โคทัล, อนัส เอดาโทดิกา