หัวหน้าผู้ฝึกสอน ฟุตบอลชายทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ยอมรับว่าเขาต้องการเก็บเกี่ยวความรู้โดยเฉพาะเรื่องสภาพร่างกาย เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาทีมให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

 

เฮดโค้ชช้างศึก U19 ถือเป็น 1 ใน 21 ผู้เข้าอบรม ที่เข้าร่วมการอบรมโค้ชระดับ โปร ไลเซนส์ ซึ่งถือเป็นรุ่นที่สองในประเทศไทย "มันเป็นโอกาสที่ดี ที่เราได้มาเรียนในคอร์สนี้ เพราะนานๆทีจะมีเข้ามาในไทย และนี่ก็ถือเป็นครั้งที่สองในประเทศไทย" อิสสระ กล่าวเริ่ม

 

"ช่วงแรกเราก็เน้นเรื่องฟิตเนส และการฝึกซ้อมในสนามเป็นหลัก ก็จะมีประโยชน์อย่างมากในการเตรียมทีม เราก็ต้องศึกษาหาความรู้ และนำกลับไปพัฒนาให้ได้มากที่สุด"

 

"ผมอยากเรียนรู้วิวัฒนาการใหม่ๆ ว่าเขาไปถึงไหนแล้ว และก็อยากนำสิ่งที่ดีที่สุด ไปใช้กับทีมฟุตบอล ตอนนี้ก็ถือเป็นช่วงแรก ก็ต้องรอดูรายละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะนำไปพัฒนานักเตะในทีมของเรา ก็ต้องลองเอาว่าระดับสูงไปเทียบ และทดสอบว่าสิ่งที่เราทำในช่วงที่ผ่านมามันถูกต้องแค่ไหน"

 

"ต้องขอบคุณสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ผลักดันให้มีคอร์ส โปร ไลเซนส์ เพราะโค้ชไทยหลายคนก็ไม่มีโอกาส แต่นี้มาถึงบ้านเราเลย ถือว่าเราโชคดีมาก ต้องขอบคุณสมาคมฯ จริงๆ"

 

"เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องรองไปเลย เพราะถ้าเรามองเรื่องความรู้และโอกาส ถือว่าเหมาะสม เพราะถ้าเราต้องไปเรียนต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาก็จะสูงกว่านี้ การที่เราได้เรียนในบ้านเราก็ทำให้เราได้ทำงานต่อเนื่องไปด้วยซ้ำ"

 

"ก่อนมาผมก็คิดไว้ว่าอยากจะนำเอาประสบการณ์จากการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี มาแบ่งปัน โดยเฉพาะเรื่องสภาพร่างกาย การฟื้นฟูร่างกาย ร่างกายของคนอาเซียนเป็นแบบนี้ หากเปรียบเทียบกับเกาหลีใต้ หรือ ญี่ปุ่น รวมถึงยุโรป เราก็อยากรู้ว่าเขามองอย่างไร และเขาทำอย่างไร เพื่อนำประสบการณ์ที่ได้รับการถ่ายทอดจากคนอื่นมาพัฒนาตัวทีมของเรา"

 

"ผมก็จะพยายามตั้งใจ และศึกษา เก็บเกี่ยวความรู้กลับไปให้ได้มากที่สุด ทำให้สิ่งเหล่านี้นำไปต่อยอดให้ได้" หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย U19 กล่าวปิดท้าย

 

หลักสูตร โปร ไลเซนส์ ถือเป็นหลักสูตร สูงสุด ที่ต่อยอดจาก เอ ไลเซนส์ ซึ่งก่อนจะมาเป็น โปร ไลเซนส์ นั้นต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ หลังจบ เอ ไลเซนส์ ไปแล้วอย่างน้อย 2 ปี โดยผู้ที่ผ่านหลักสูตรนี้ จะสามารถทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ อย่างฟุตบอลโลก หรือ ฟุตบอลชิงแชมป์ระดับทวีปเป็นต้น รวมถึงตำแหน่งต่างๆ อาทิ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสโมสรและทีมชาติ โดยจะใช้เวลาในการอบรม แบ่งเป็น 4 ช่วง โดยทั้งสี่ช่วงมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 500,000 บาท