สมาคมฟุตบอลยกเครื่องไทยแลนด์ ยูธลีก ประกาศใช้คลับไลเซนซิ่งปีแรก เริ่มหวด 14 มีนาคม 63 เป็นต้นไป

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มีการประชุมสโมสรสมาชิก เพื่อชี้แจงและหารือถึงแนวทางการจัดการแข่งขัน ฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ "ไทยแลนด์ ยูธลีก" ในฤดูกาล 2020 ขึ้น โดยมี นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย เป็นประธาน และมี มร.การ์เลส โรมาโกซา ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ทำหน้าที่ชี้แจง

มร.การ์เลส โรมาโกซา เผยว่า นับแต่ฤดูกาล 2020 เป็นต้นไป การจัดแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ จะย้ายจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย มาอยู่ในความดูแลของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยแบ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอล 7 คน "กราสรูส" รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี เรียกว่า "เอฟ-เซเว่น ลีก" กับการแข่งขัน "ไทยแลนด์ ยูธลีก" ฟุตบอล 11 คน 3 รายการ คือ ในรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี, รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี  และ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จากเดิมที่จัดแข่งขัน 4 รายการ คือ รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี, รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี, รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี 

การแข่งขันทั้งระดับ "กราสรูส" และระดับ "ยูธ" จะแบ่งการแข่งขันออกเป็นรอบลีก, รอบไฟนอล เช่นเดิม โดยจะมีการแข่งขันฟุตบอลถ้วยเพิ่มเข้ามาอีก 1 ทัวร์นาเมนท์ นอกจากนี้ ในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ยังจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ดิวิชั่น คือ ดิวิชั่น 1 และ ดิวิชั่น 2 โดยมีการเลื่อนชั้น-ตกชั้น อีกด้วย ใช้เวลาแข่งขันเริ่มจากเดือนมีนาคม-เดือนตุลาคม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนทีมที่สมัครเข้าร่วมแข่งขันว่าเป็นไปตามยอดที่กำหนดหรือไม่

สำหรับสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน ประกอบด้วย สโมสรจาก ไทยลีก 1- ไทยลีก 4(ไม่รวมทีมชุดบี), ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก และสมาคมกีฬาจังหวัด โดยสามารถส่งได้ 1 ทีมต่อ 1 รุ่น ขณะที่ทีมจาก ไทยลีก 1 นั้นสามารถส่งได้ 2 ทีมต่อ 1 รุ่น โดย 1 ทีมดั้งเดิมจะได้สิทธิ์เข้าไปแข่งขันในรอบลีกโซนอัตโนมัติเช่นเดิม แต่อีก 1 ทีมที่ส่งเพิ่มเติมอาจต้องทำการเพลย์ออฟเช่นเดียวกับทีมอื่นๆ รวมถึงสโมสรที่จะสมัครใหม่นับจากฤดูกาล 2021 เป็นต้นไปด้วย

ทีมที่จะได้สิทธิ์เข้าแข่งขันในรอบลีกโซน ประกอบด้วย ทีมจาก ระดับไทยลีก 1-ไทยลีก 2 ของฤดูกาล 2020 กับทีมที่ได้อันดับ 1 และอันดับ 2 ของแต่ละรุ่นอายุ และของแต่ละโซน ในการแข่งขันฤดูกาล 2018-2019 โดยหากทีมใดทีมหนึ่งทิ้งสิทธิ์ตามระเบียบข้างต้นจะไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ทีมอันดับ 3 ของแต่ละลีกโซน แข่งขันแทนได้ ต้องเพลย์ออฟหาทีมทดแทน

การแข่งขันรอบเพลย์ออฟ จะทำการแข่งขันแบ่งเป็น 8 โซน หากโซนใดมีทีมต้องการเข้าร่วมเกิน 10 ทีมให้จับสลากเพื่อแข่งขันเพลย์ออฟ โดยสนามแข่งขันจะเป็นไปตามที่คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขันกำหนด รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี แข่งขันครึ่งละ 35 นาที, รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี แข่งขันครึ่งละ 40 นาที และ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี แข่งขันครึ่งละ 45 นาที พักครึ่งละไม่เกิน 15 นาที

ขณะที่รอบลีกโซน แข่งขันแบ่งเป็น 8 โซน ไม่เกินโซนละ 10 ทีม รวมทั้งสิ้น 80 ทีม ในระบบเหย้า-เยือน รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี แข่งขันครึ่งละ 35 นาที, รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี แข่งขันครึ่งละ 40 นาที จำนวนนัดการแข่งขันขึ้นอยู่กับจำนวนทีมในโซนนั้น ๆ โดยจำนวนทีมมีสิทธิ์เข้ารอบแชมเปี้ยนส์ชิพขึ้นอยู่กับจำนวนทีมที่เข้าร่วมในโซนนั้น ๆ เช่นกัน ซึ่งจะประกาศอย่างเป็นทางการก่อนเริ่มแข่งขันครึ่งฤดูกาลหลัง

ด้านรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ดิวิชั่น ก็ได้แบ่งการแข่งขันเป็น 8 โซนเช่นกัน แต่ละโซนไม่เกิน 10 ทีม รวม 160 ทีม แข่งขันในระบบเหย้า-เยือน ทีมที่มีคะแนนน้อยสุด 2 ทีมจะถูกลดชั้นจากดิวิชั่น 1 ลงมายังดิวิชั่น 2 ขณะที่ 2 ทีมที่มีคะแนนดีที่สุดของดิวิชั่น 2 ก็จะได้เลื่อนสู่ ดิวิชั่น 1 แข่งขันครึ่งละ 45 นาที 

ทั้งนี้ในการแข่งขัน เอฟ-เซเว่น ลีก นักกีฬาในรุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี ต้องเกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป ส่วนรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ต้องเกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไป

สำหรับ ไทยแลนด์ ยูธลีก นักกีฬาในรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ต้องเกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 เป็นต้นไป, นักกีฬาในรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ต้องเกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547 เป็นต้นไป และ นักกีฬาในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ต้องเกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2544 เป็นต้นไป

การลงทะเบียนนักกีฬา 20 คนแรกจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 20-29 กุมภาพันธ์ 2563 ผ่านระบบเดียวกับฟุตบอลไทยลีก โดยฝ่ายจัดจะเตรียมไอดีให้กับแต่ละทีมต่อไป ส่วนการขึ้นทะเบียนนักกีฬาทั้งหมด รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี และ รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ภายในวันที่ 6 มีนาคม 2563 ขณะที่รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี นั้นภายในวันที่ 20 มีนาคม 2563

นอกจากนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขันยังได้ประกาศใช้คลับไลเซนซิ่ง เช่นเดียวกับสโมสรฟุตบอลอาชีพ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของเอเอฟซี เนื่องจากเป็นปีแรกจึงอนุโลมการจัดทำคลับไลเซนซิ่งเพียง 3 หัวข้อ จากทั้งหมด 6 หัวข้อ ประกอบด้วย หลักเกณฑ์ด้านกีฬา, หลักเกณฑ์ด้านบุคลากร และ หลักเกณฑ์ด้านโครงสร้างพื้นฐาน

ทั้งนี้ การแข่งขันรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี และ รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี แข่งขันนัดแรกวันที่ 14 มีนาคม เป็นต้นไป ส่วนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี แข่งขัน 28 มีนาคม เป็นต้นไป