ผศ. รัชด ชมภูนิช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาอย่างยั่งยืนและสื่อสารองค์กร เกษตรศาสตร์ เอฟซี เปิดใจผลงานคืนเบรกที่เก็บแค่ 1 แต้มจาก 3 นัด แต่มั่นใจทีมสปิริต และความมุ่งมั่นที่ได้เห็นจะพาทีมขยับเก็บแต้มได้มากขึ้นในเร็ววันนี้

เกษตรศาสตร์ เอฟซี เก็บ 1 แต้มจาก 3 นัดในการคืนสนามไทยลีก 2 ส่งผลให้ทีมยังมีแค่ 5 แต้มจาก 7 นัดแรกอยู่ในพื้นที่กลุ่มท้ายตารางไทยลีก 2 โดยล่าสุดทางด้าน ผศ.รัชด ชมภูนิช รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาอย่างยั่งยืนและสื่อสารองค์กร เกษตรศาสตร์ เอฟซี ได้ออกมาเปิดใจถึงผลงานหลังคืนเบรกว่า

ช่วง 2-3 เดือนมานี้ ผมได้รับมอบหมายจากท่านอธิการบดีให้มาช่วยดูแลสนับสนุนการใช้สนามอินทรีจันทรสถิตย์เพื่อเป็นสนามเหย้าของทีม เกษตรศาสตร์ เอฟซี ทีมฟุตบอลแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ตามภาระงานใหม่ ผมจึงเริ่มให้ความสนใจ ใส่ใจ กับทีมจนกลายเป็นความตั้งใจดู ตั้งใจเชียร์ และถือเป็นกองเชียร์ตัวยงที่ตัองตามดูแบบเกาะขอบสนามไปอีกคน

ด้วยโอกาสหยุดพักเบรคในช่วงโควิด ผู้บริหารสโมสรปรับเปลี่ยนทีมครั้งใหญ่ทั้งแนวคิดการสร้างทีมด้วยการใช้ผู้เล่นอายุน้อยๆ เปลี่ยนชุดสตาฟโค้ชและตัวผู้เล่น โดยเฉพาะเฮดโค้ชคือโค้ชวุฒิ หรือ วริศ บุญศรีพิทยานนท์ ซึ่งเป็นลูกหม้อ KU แท้ๆ มาดูแลทีมในปัจจุบัน

สิ่งที่ผมเห็นในการฝึกซ้อมและแมตช์อุ่นเครื่องตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ผมเห็นทรงบอลที่ดูดุดันขึ้น ใช้การเพรสซิ่งกดดันฝ่ายตรงข้าม และเกมรุกที่รวดเร็วขึ้นน่าประทับใจ รวมทั้งสปิริตในทีมที่มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น รวมทั้งความเชื่อมโยงระหว่างสโมสรและมหาวิทยาลัยทั้งในแง่ของการสนับสนุนสถานที่ บุคลากร และนำนิสิตปัจจุบันของเราเป็นสมาชิกของทีมถึง 6 คน รวมทั้งการสนับสนุนให้นิสิตปัจจุบันเข้าชมในสนามแมตช์เหย้าได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

สิ่งเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของแนวทางการสร้างความเข้มแข็งทางกีฬาฟุตบอลอย่างยั่งยืนของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และการส่งเสริมสปิริตของนิสิตผ่านกีฬาประเภททีมด้วยแนวคิด KU-nity ของมหาวิทยาลัยนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดฤดูกาล 2020 ไทยลีก2 อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ทีม เกษตรศาสตร์ เอฟซี ลงสนามไป 3 แมตช์ เก็บแต้มได้เพียง 1 แต้ม เราลงสนามแมตช์เยือน 2 แมตช์และเหย้า 1 แมตช์ ประเดิมแพ้ลำปางยูไนเต็ด 1-2 กลับมาเตะแมตช์เหย้าเสมอ เชียงใหม่ยูไนเต็ด 3-3 และล่าสุดเมื่อคืนวาน (เสาร์ 19 กย.) เราออกไปเยือนแพ้ทีม MOF ศุลกากร 0-2

ถ้ามองดูจากผลการแข่งขันและอันดับตารางคะแนนเราจะเห็นเพียงแต่ตัวเลขจำนวนผลแพ้ ชนะ เสมอ และคะแนนของทีมเรา ผมก็ยอมรับว่ามันไม่น่าพอใจเท่าไรกับคะแนนเพียง 5 แต้มและอันดับ 14 ซึ่งไม่ห่างโซนท้ายตารางเลย

แต่สิ่งที่ผมเห็นจากการติดตามการเล่นของทีมเราผ่านการถ่ายทอดสด 1 แมตช์และขอบสนามอีก 2 แมตช์ พบว่าทั้ง 3 แมตช์เรามีโอกาสคว้าชัยชนะได้ทั้งหมด แต่ด้วยความผิดพลาดส่วนบุคคลในเกมรับและปัจจัยในสนามบางประการที่ทำให้ทีมเราไม่ได้ผลตามที่ต้องการได้

จากแมตช์ล่าสุดที่สนามลาดกะบัง 54 คนที่ได้ชมเกมในสนามจริงและจากการถ่ายทอดสดน่าจะพูดเป็นเสียงเดียวกันได้ว่า เกษตรศาสตร์ เอฟซี มีโอกาสครองเกมบุกมากกว่าถึง 70:30 ไม่รวมลูกเตะมุมอีกนับสิบ กับการยิงชนคานสามเหลี่ยมกับเสาประตูอย่างละลูก เพียงแต่เราไม่สามารถแปรสิ่งเหล่านี้เป็นประตูได้ เท่านั้นเองจริงๆ

การเปลี่ยนแปลงแบบแผนการเล่น การผสมผสานเข้าใจระหว่างผู้เล่นและโค้ช การฝึกซ้อมทำความเข้าใจในเกมการแข่งขัน การแก้ปัญหาระหว่างเกม การสร้าง Match Fitness ฯลฯ ปัจจัยภายในทีมที่เรายังขาดอยู่เหล่านี้ จำเป็นต้องใช้เวลาอีกนิดเพื่อฝึกฝน ปรับจูนกันให้ลงตัว เพื่อส่งผลมายังชัยชนะที่เราต้องการ

แต่สิ่งที่ผมมองเห็นว่าผู้เล่นของเรามีอยู่เต็มเปี่ยมคือ หัวใจและสปิริตแห่งความเป็นเกษตรศาสตร์เต็มตัวไม่ว่านักเตะไทยและต่างชาติก็ตาม ผมคิดว่าพวกเขาทุกคนมีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเล่นให้ดีที่สุด เพื่อผลการแข่งขันที่ต้องการและเพื่อความภาคภูมิใจของกองเชียร์นาคามรกตทุกคน

วันเสาร์ที่ 26 ก.ย. นี้เวลา 20.00 น. ผมอยากเชิญชวนชาวเกษตรศาสตร์และกองเชียร์ขาประจำ ขาจรมาพิสูจน์ด้วยตาของท่านเองว่าทีมของเรามีพัฒนาการขึ้นมากน้อยเพียงใด มาผนึกกำลังกันส่งเสียงเชียร์ให้ก้องสนามว่าพลังสนับสนุนทัพนักกีฬาลูกนนทรีเรา ไม่เคยแพ้หรือเป็นสองรองใคร เพราะการส่งเสียงเชียร์ การติดตามให้กำลังใจนักกีฬาทุกทีม ทุกประเภทที่ลงสนามในนามเกษตรศาสตร์ไม่ใช่แค่ภาระงานตามหน้าที่ แต่นี่คือ spirit แห่ง KU ครับ พบกันที่สนามอินทรีจันทรสถิตย์ครับ